Are you over 18 and want to see adult content?
More Annotations
![FISTCO - Collectibles von Hot Toys, Sideshow, DC Comics u.a. - Collectibles von Hot Toys, Sideshow, DC Direct u.a.](https://www.archivebay.com/archive/7842841e-ccf6-444b-8c00-831f5fe587e5.png)
FISTCO - Collectibles von Hot Toys, Sideshow, DC Comics u.a. - Collectibles von Hot Toys, Sideshow, DC Direct u.a.
Are you over 18 and want to see adult content?
![A complete backup of caxias.rs.gov.br](https://www.archivebay.com/archive/c7c9c136-c8d4-4ba9-a393-34682b63e41e.png)
A complete backup of caxias.rs.gov.br
Are you over 18 and want to see adult content?
![Property in Botswana - Botswana Real Estate - Seeff Properties](https://www.archivebay.com/archive/ba3f4182-40af-4c8d-9f65-3081774262fa.png)
Property in Botswana - Botswana Real Estate - Seeff Properties
Are you over 18 and want to see adult content?
![Zoom Bike Park – Bike Park em Campos do Jordão](https://www.archivebay.com/archive/5ab34a81-0b28-4dc8-8a38-428ab428b3cf.png)
Zoom Bike Park – Bike Park em Campos do Jordão
Are you over 18 and want to see adult content?
![Apache Pine - Lifestyle Brand for the Adventurous](https://www.archivebay.com/archive/5fda3c11-4452-45e4-872c-8243a323f29b.png)
Apache Pine - Lifestyle Brand for the Adventurous
Are you over 18 and want to see adult content?
![TricksGalaxy - Best Tech List & Tips](https://www.archivebay.com/archive/d881f89e-02cf-46f2-8fe5-dc00e337e2e6.png)
TricksGalaxy - Best Tech List & Tips
Are you over 18 and want to see adult content?
Favourite Annotations
![Welcome to Sanford, The Home of Sustainable Seafood](https://www.archivebay.com/archive/50a68440-a907-4c5d-86be-f3f158f9746a.png)
Welcome to Sanford, The Home of Sustainable Seafood
Are you over 18 and want to see adult content?
![Welcome to the BARC – The British Automobile Racing Club](https://www.archivebay.com/archive/bd02c99f-a3ed-4197-ae96-be703cbc2035.png)
Welcome to the BARC – The British Automobile Racing Club
Are you over 18 and want to see adult content?
![Noticias Y Tips De Salud, Tecnologia Y Viajes | Descubrelo.mx](https://www.archivebay.com/archive/9082a5ac-6890-4f7e-a5c8-81fdcd9e2a60.png)
Noticias Y Tips De Salud, Tecnologia Y Viajes | Descubrelo.mx
Are you over 18 and want to see adult content?
![Visitar o Vaticano. Guia da Cidade do Vaticano, guia de viagem](https://www.archivebay.com/archive/c7c0a27f-cd52-4e1f-89f1-f537aad22ebd.png)
Visitar o Vaticano. Guia da Cidade do Vaticano, guia de viagem
Are you over 18 and want to see adult content?
![Авто из США в Украину с компанией WinWinCars.com.ua](https://www.archivebay.com/archive/29099da2-0ee1-4e3e-b0a9-43129ab8005c.png)
Авто из США в Украину с компанией WinWinCars.com.ua
Are you over 18 and want to see adult content?
![Centrum Sztuki Współczesnej Zamek Ujazdowski w Centrum Sztuki Współczesnej Zamek Ujazdowski](https://www.archivebay.com/archive/df5cb7c8-06ac-4093-8d4c-7d85602e4fdd.png)
Centrum Sztuki Współczesnej Zamek Ujazdowski w Centrum Sztuki Współczesnej Zamek Ujazdowski
Are you over 18 and want to see adult content?
![BALATON 24 - Ferienhäuser am Balaton in Ungarn - Plattensee](https://www.archivebay.com/archive/2944fe04-a5c3-49e3-b406-c41dbfe2982e.png)
BALATON 24 - Ferienhäuser am Balaton in Ungarn - Plattensee
Are you over 18 and want to see adult content?
Text
COLA: NETWORKING
Networking Framework Management Tool Box ด้าน Leading ทฤษฎีและแนวคิดการสร้างเครือข่าย “ Networking & Partnership เป็นหั COLA: ทฤษฎี EDWARD DAMMINGTRANSLATE THIS PAGE Dr. WilliamEdwards Deming ได้พัฒนาวงจร PDCA ขึ้นมาจากแนวคิดของ Dr. W.A. Shewhart ในระยะแรกรู้จัก วงจร PDCA ในนาม Shewhart Cycle จากนั้น Dr. WilliamEdwards Deming
ได้นำพัฒนาปรับใช้ในการ COLA: 7’S FRAMEWORK 7’S Framework ความเป็นมา โครงร่าง 7 เอส ของแมคคินซี่ เป็นตัวแบบซึ่งผู้เรียกขานกันแตกต่างกันไปเช่น McKin
COLA: STRATEGIC MATRIX Strategic Matrix 1. หลักการ / แนวคิด / ประวัติความเป็นมา ในการกำหนดกลยุทธ์นั้นจะต้องพิจ COLA: STEP OF STRATEGIC PLANNING PROCESS1.
ขั้นตอนของกระบวนการวางแผนกลยุทธ์ ( Step of strategic planning process) สวัสดีครับ สำหรับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 สำหรับการฝึกเ COLA: CORPORATION GOVERNANCE Corporation Governance เกิดขึ้นเมื่อ ปี 1980-1990 แถบยุโรป ปี 1997 ประเทศไทยได้นำมาใช้ การกำกับดูแลกิ COLA: KPI, CSF ( CONTROLLING ) KPI, CSF ( Controlling ) KPI (Key Performance Indicator) หรือ ตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลัก เป็นการวัดความก้าวหน้ COLA: FRANK B. GILBRETH & LILLIAN GILBRETH Frank B. Gilbreth & Lillian Gilbreth Frank B. Gilbreth & Lillian Gilbreth ความเป็นมา ผู้สนับสนุนแนวคิดของ Taylor อีก 2 ท่า วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์(PRODUCT LI FECYCLE)
2. เครื่องมือนี้คือ วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์(plc) เป็นประวัติการเจริญเติบโตของยอดขาย และกำไรของผลิตภัณฑ์ องค์ประกอบ ของ วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์(plc) COLA: OLIVER SHELDON Oliver Sheldon Oliver Sheldon Oliver Sheldon มีประสบการณ์ทำงานในการบริหารกองทัพและ Coca Works of RowntreeCOLA: NETWORKING
Networking Framework Management Tool Box ด้าน Leading ทฤษฎีและแนวคิดการสร้างเครือข่าย “ Networking & Partnership เป็นหั COLA: ทฤษฎี EDWARD DAMMINGTRANSLATE THIS PAGE Dr. WilliamEdwards Deming ได้พัฒนาวงจร PDCA ขึ้นมาจากแนวคิดของ Dr. W.A. Shewhart ในระยะแรกรู้จัก วงจร PDCA ในนาม Shewhart Cycle จากนั้น Dr. WilliamEdwards Deming
ได้นำพัฒนาปรับใช้ในการ COLA: 7’S FRAMEWORK 7’S Framework ความเป็นมา โครงร่าง 7 เอส ของแมคคินซี่ เป็นตัวแบบซึ่งผู้เรียกขานกันแตกต่างกันไปเช่น McKin
COLA: STRATEGIC MATRIX Strategic Matrix 1. หลักการ / แนวคิด / ประวัติความเป็นมา ในการกำหนดกลยุทธ์นั้นจะต้องพิจ COLA: STEP OF STRATEGIC PLANNING PROCESS1.
ขั้นตอนของกระบวนการวางแผนกลยุทธ์ ( Step of strategic planning process) สวัสดีครับ สำหรับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 สำหรับการฝึกเ COLA: CORPORATION GOVERNANCE Corporation Governance เกิดขึ้นเมื่อ ปี 1980-1990 แถบยุโรป ปี 1997 ประเทศไทยได้นำมาใช้ การกำกับดูแลกิ COLA: KPI, CSF ( CONTROLLING ) KPI, CSF ( Controlling ) KPI (Key Performance Indicator) หรือ ตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลัก เป็นการวัดความก้าวหน้ COLA: FRANK B. GILBRETH & LILLIAN GILBRETH Frank B. Gilbreth & Lillian Gilbreth Frank B. Gilbreth & Lillian Gilbreth ความเป็นมา ผู้สนับสนุนแนวคิดของ Taylor อีก 2 ท่า วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์(PRODUCT LI FECYCLE)
2. เครื่องมือนี้คือ วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์(plc) เป็นประวัติการเจริญเติบโตของยอดขาย และกำไรของผลิตภัณฑ์ องค์ประกอบ ของ วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์(plc) COLA: OLIVER SHELDON Oliver Sheldon Oliver Sheldon Oliver Sheldon มีประสบการณ์ทำงานในการบริหารกองทัพและ Coca Works of Rowntree COLA: COMMUNICATIONTRANSLATE THIS PAGE 18 Famous Quotes by Peter F. Drucker “Quality in a product or service is not what the supplier puts in. It is what the customer gets out and is willing to pay for. A product is not quality because it is hard to make and costs a lot of money, as manufacturers typically believe. This is incompetence. Customers pay only for what is of useto
COLA: VALUE CHAIN ANALYSISTRANSLATE THIS PAGE 18 Famous Quotes by Peter F. Drucker “Quality in a product or service is not what the supplier puts in. It is what the customer gets out and is willing to pay for. A product is not quality because it is hard to make and costs a lot of money, as manufacturers typically believe. This is incompetence. Customers pay only for what is of useto
ทฤษฎี MASLOW ประวัติของอับราฮัม มาสโลว์ (Abraham Maslow. 1908-1970) มาสโลว์ เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1908 ที่เมืองบรุคลิน (Brooklyn) ในรัฐนิวยอร์ก (New York) เขาได้รับปริญญาในปี ค.ศ.1930
STAKEHOLDER
Stakeholder การ บริหารบริษัทให้ยั่งยืนอยู่ในธุรกิจได้นานนั้น ผู้บริหารจะต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญ COLA: LEARNING ORGANIZATION (LO): องค์กรแห่งการเรียนรู้TRANSLATETHIS PAGE
Learning Organization (LO): องค์กรแห่งการเรียนรู้ 1)หลักการ แนวคิดองค์การแห่งการเรียนรู้ ของซิงเก้ (Senge) ศาสต ต้นทุนกิจกรรม หรือABC(ACTIVITY-BASEDCOSTING)
ระบบต้นทุนฐานกิจกรรม (Activity-Based Costing: ABC) คือ การวัดค่าต้นทุนและผลการปฏิบัติงานอันเกิดจากการใช้ทรัพยากรไปในกิจกรรมต่างๆของ
COLA: แนวคิดและทฤษฎี HENRI FAYOLTRANSLATETHIS PAGE
แนวคิดและทฤษฎี Henri Fayol 1. หลักการ / แนวคิด / ประวัติความเป็นมา • มีชีวิตอยู่ในช่วง ปี ค.ศ. 1841-1926 เป็นชาวฝรั่งเศส นัก ทฤษฎี EDWARD DAMMING Dr. WilliamEdwards Deming ได้พัฒนาวงจร PDCA ขึ้นมาจากแนวคิดของ Dr. W.A. Shewhart ในระยะแรกรู้จัก วงจร PDCA ในนาม Shewhart Cycle จากนั้น Dr. WilliamEdwards Deming
ได้นำพัฒนาปรับใช้ในการ แนวคิดและทฤษฎี ELTON MAYO สนับสนุนให้มีการทำวิจัยด้านผู้นำต่างๆ ผู้นำต้องเปิดโอกาสให้คน ในองค์การเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ. แนวความคิดทฤษฎีPDCA
วงจรการบริหารงานคุณภาพ เมื่อทศวรรษ 1950 ได้มีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางโดยW.Edwards Deming
ปรมาจารย์ทางด้านการบริหารคุณภาพ หลายคนจึงเรียกวงจรนี้ว่า“ วงจร D
COLA
Classic
* คลาสสิก * ฟลิปการ์ด * วารสาร * ภาพโมเสค * แถบด้านข้าง * สแนปชอต * แถบเวลา*
Oct
6
MICHEAL HAMMER
MICHEAL HAMMER
MICHAEL HAMMER
ความเป็นมา Michael Hammer เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1948 and James Champy ผู้มีแนวคิดกับการ Re-Engineering กล่าวคือวงการธุรกิจในอเมริกา กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตที่ต้องแสวงหาวิธีการใหม่ ที่พลิกฟื้นสถานการณ์โดยเร็วที่สุด ซึ่งมีพลังผลักดัน 3 ประการคือ (1) ลูกค้า (Customer) (2) การแข่งขัน (Competitions) และ (3) การเปลี่ยนแปลง (Change) ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคนในหมู่นักบริหารปัจจุบัน ตลอดจนได้มีการเปลี่ยนกรอบเค้าโครงของความคิด ( Paradigm )จากที่เคยเฉื่อยชา ต้องเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ ( Globalization ) ความหมายและแนวคิด ดร.รุ่ง แก้วแดง ได้อธิบายความหมายของคำว่า การรื้อปรับระบบไว้ในหนังสือ รีเอ็นจิเนียริ่งระบบราชการไทย ตามแนวคิดของ Hammer กับ Champy และหนังสือ Reengineering the Corporation ของ แฮมเบอร์กับแชมปี แปลโดยปริทรรศน์ พันธุบรรยงก์ ว่าการรื้อปรับระบบ หมายถึงการพิจารณาหลักการพื้นฐานของธุรกิจและการคิดหลักการขึ้นใหม่ ชนิดถอนรากถอนโคน ปรับกระบวนการธุรกิจใหม่เพื่อให้บรรลุถึงผลลัพธ์ของการปรับปรุงอันยิ่งใหญ่ คือ เป้าหมายขององค์กร โดยใช้ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานที่ทันสมัยและสำคัญที่สุดใน 4 ด้าน คือ ต้นทุน คุณภาพ การบริการ และความเร็ว โดยมีคำศัพท์ที่เป็นหัวใจสำคัญของรื้อปรับระบบ 4 คำศัทพ์คือ การรื้อปรับระบบ•Rethink
•Redesign
•Retools
•Rehumaneering
โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous0
เพิ่มความคิดเห็น*
Oct
6
FRANK B. GILBRETH & LILLIAN GILBRETH FRANK B. GILBRETH & LILLIAN GILBRETH FRANK B. GILBRETH & LILLIAN GILBRETH ความเป็นมา ผู้สนับสนุนแนวคิดของ Taylor อีก 2 ท่าน คือ Frank B. Gilbreth (ค.ศ.1868-1924) และ Lillian Gilbreth (ค.ศ.1978-1972)Frank B. Gilbreth
ได้ออกจากมหาวิทยาลัยมาเป็นช่างก่อสร้างในปี ค.ศ.1855 ขณะมีอายุ 17 ปี สิบปีต่อมาเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าควบคุมดูแลการก่อสร้างอาคารของบริษัท และเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างเอง ในช่วงที่เป็นอิสระจากงานของTaylor
เขาสนใจเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนไหวในการทำงาน โดยลดจำนวนการเคลื่อนที่ในการเรียงอิฐ เขาสร้างความเป็นไปได้ของการทำงานของผู้เรียงอิฐที่ได้งานเป็นสองเท่าของปกติ ในการทำงานของ Frank B.Gilbreth
ได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนโดยภรรยาของเขาคือ Lillian
ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาอุตสาหกรรม เก้าปีหลังจากการแต่งงาน (ในปี ค.ศ.1924) Frank B. Gilbreth ได้เสียชีวิต Lillian เป็นที่ปรึกษาธุรกิจและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นสภาพสตรีคนแรกของการจัดการธุรกิจ จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่ออายุได้93 ปี
องค์ประกอบLillian Gilbreth
สนใจในการทำงานของมนุษย์ ส่วนสามีสนใจในประสิทธิภาพในการทำงาน (การค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการทำงาน)Frank
ได้ประยุกต์ใข้การบริหารจัดการตามหลักวิทยาศาสตร์ (Scientific management principles) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1) เป็นการวิเคราะห์ทุก ๆ กิจกรรมของแต่บุคคลที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติงานโดยเฉพาะงานที่มีความสำคัญ2)
เป็นการค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดในการปฏิบัติงานเพื่อเป็นกิจกรรมประกอบแต่ละอย่าง3)
มีการปฏิรูปกิจกรรมที่เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป้นกิจกรรมที่สามารถปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพได้ คือใช้ต้นทุนและเวลาน้อยที่สุดข้อดี
Time and motion study หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การศึกษาการทำงาน (Work study) เป็นเครื่องมือที่ช่วย1.
ลดความสูญเปล่า ทั้งด้านเวลา แรงงาน และค่าใช้จ่ายในการทำงาน2.
ผลผลิตในการทำงานเพิ่มขึ้น โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous0
เพิ่มความคิดเห็น*
Oct
6
LUTHER GULICK
LUTHER GULICK
LUTHER GULICK
ความเป็นมา เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1892 ที่เมือง Osaka ประเทศญี่ปุ่นเป็นชาว American แต่เนื่องจากบิดาเป็นMissionary ที่นั่น Gulick จึงอาศัยอยู่ที่ Osaka ต่อมานักวิชาการด้านรัฐประสาสนศาสตร์มีความเห็นร่วมกันว่า ทฤษฎีแนวความคิดหลักการบริหารได้เจริญถึงจุดสุดยอดในปี ค.ศ. 1937 อันเป็นปีที่ Gulick และUrwick
ได้ร่วมกันเป็นบรรณาธิการหนังสือชื่อ Papers on the Science of Administration : Notes of the Theory ofOrganization
โดยเสนอแนวคิดกระบวนการบริหาร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ชื่อว่า ‘ POSDCoRB” อันเป็นคำย่อของภาระหน้าที่ที่สำคัญของนักบริหาร 7 ประการ ทฤษฎี : กระบวนการบริหารPOSDCORB
กูลิค และ เออร์วิกค์ ได้รวบรวมแนวคิดทางด้านการบริหารต่าง ๆ เอาไว้ในหนังสือชืื่อ "Paper on the Science of Administration ) โดยเสนอแนวคิดกระบวนการบริหาร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีชื่อว่า"POSDCoRB"
ภาระหน้าที่ที่สำคัญของนักบริหาร 7 ประการ คือ 1. Planning การวางแผนเป็นการวางเค้าโครงกิจกรรมซึ่งเป็นการเตรียมการก่อนลงมือปฏิบัติ เพื่อให้การดำเนินการสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. Organizing การจัดองค์การ
เป็นการกำหนดโครงสร้างขององค์การ โดยพิจารณาให้เหมาะสมกับงาน เช่น การแบ่งงาน (Division of Work) เป็นกรม กอง หรือแผนก โดยอาศัยปริมาณงาน คุณภาพงาน หรือจัดตามลักษณะเฉพาะของงาน
(Specialization)
3. Staffing การจัดบุคลากรปฏิบัติงานเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในองค์การนั่นเอง ทั้งนี้เพื่อให้บุคลากรมาปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับการจัดแบ่งหน่วยงานที่กำหนดไว้ 4. Directing การอำนวยการ
เป็นภาระกิจในการใช้ศิลปะในการบริหารงาน เช่น ภาวะผู้นำ (Leadership) มนุษยสัมพันธ์ (Human Relations) การจูงใจ (Motivation) และการตัดสินใจใจ (Decision making) เป็นต้น 5. Coordinating การประสานงาน
เป็นการประสานให้ส่วนต่าง
ๆ
ของกระบวนการทำงานมีความต่อเนื่องกัน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และราบรื่น 6. Reporting การรายงานเป็นกระบวนการและเทคนิคของการแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาตามชั้นได้ทราบถึงผลการปฏิบัติงาน โดยที่มีีความสัมพันธ์กับการติดต่อสื่อสาร (Communication) ในองค์การอยู่ด้วย 7. Budgeting การงบประมาณ
เป็นภารกิจที่เกี่ยวกับการวางแผนการทำบัญชีการควบคุมเกี่ยวกับการเงินและการคลัง การนำไปใช้
สาระสำคัญของแนวคิดของ Gulick&Urwick เกี่ยวกับ POSDCoRB ก็คือ ประสิทธิภาพ อันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของการบริหาร และเพื่อให้การบริหารงานในทุกหน่วยงานมีประสิทธิภาพ จะต้องมีการแบ่งงานกันทำตามความเหมาะสมและความจำเป็น หรือความถนัดของคนงาน โดยแบ่งหน่วยงานออกตามกระบวนการ วัตถุประสงค์ ลูกค้า และพื้นที่โดยทุกหน่วยงานจะต้องจัดรูปแบบองค์การเป็นรูปสามเหลี่ยมปิรามิด มีสายการลังคับบัญชาถอยหลั่นกันมา โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous
0
เพิ่มความคิดเห็น*
Oct
6
RICHARD JOHNSON
RICHARD JOHNSON
RICHARD JOHNSON
แนวความคิด : ทฤษฎีเชิงระบบ แนวคิดหลัก (KEY CONCEPTS) องค์การถูกพิจารณาเป็นระบบเปิด การบริหารจัดการต้องมีปฏิกิริยาสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับ ปัจจัยนำเข้าไปสู่ผลผลิต วัตถุประสงค์ขององค์การจะต้องมุ่งที่ประสิทธิภาพและประสิทธิผล องค์การจะประกอบด้วยระบบย่อยจำนวนมาก มีหลายช่องทางที่จะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน การรวมตัวจะมีขนาดใหญ่กว่าผลรวมของแต่ละชิ้นส่วน ส่วนประกอบของแนวคิดเชิงระบบ 1. เป้าหมาย (Goals ) และทรัพยากร (Resources) 2. องค์การ(Organization)และการประสานงาน(Coordination) 3. การแก้ไขปัญหา (Solutions) และแนวคิด (Perspectives) สิ่งที่ให้ประโยชน์(CONTRIBUTION)
ทำให้ยอมรับความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างองค์การกับสภาพแวดล้อมภายนอก ข้อจำกัด ไม่สามารถให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงในหน้าที่และงานของผู้บริหาร โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous0
เพิ่มความคิดเห็น*
Oct
6
JAMES THOMPSON
JAMES THOMPSON
JAMES THOMPSON
แนวคิดและทฤษฎีการจัดการ ทฤษฎีเชิงระบบ (systems theory) (ปี 1960) เป็นวิธีการจัดการที่ผสมผสานหน้าที่ในการจัดการกิจกรรมการจัดการและการวางแผนเชิงกลยุทธ์เข้าด้วยกัน โดยพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมภายนอก ทรรศนะที่อธิบายถึงผลกระทบจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่มีต่อองค์การถูกเสนอโดย แดเนียล แคทซ์ โรเบิร์ต คาห์น (Robert Kahn) และเจมส์ ธอมป์สัน (James Thompson) นักทฤษฎีเหล่านี้มีมุมมองว่าองค์การเป็นระบบเปิด(open
system)ซึ่งถือเป็นระบบที่องค์การได้นำทรัพยากรจากสภาพแวดล้อมภายนอกมาแปรสภาพเป็นสินค้าและบริการ เพื่อส่งกลับไปยังสภาพแวดล้อมในที่ซึ่งสินค้าและบริการได้ขายให้กับลูกค้า นอกจากนั้นผู้นำทางทฤษฎีเชิงระบบเช่น ริชาร์ด จอร์นสัน (Richard Johnson) ฟรีมอนด์ แคสท์ (Fremont Kast)และเจมส์ โรเซนซ์เวจ (JamesRosenweig)
แนวคิดเกี่ยวกับองค์การของJAMES D.THOMPSON
•
องค์การเป็นระบบเปิดที่ทำงานในสภาพที่ ไม่แน่นอน•
องค์การพยายามดำเนินงานโดยใช้ความมีเหตุผล เพื่อเป็นการสร้างแน่นอนในการทำงาน•
องค์การจะต้องคอยปรับตัวเพื่อให้ทำงานได้ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน องค์การจะจัดการกับความไม่แน่นอนโดยการแบ่งหน้าที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ - ส่วนเทคนิค - ส่วนจัดการ - ส่วนสถาบัน โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous0
เพิ่มความคิดเห็น*
Oct
6
ROBERT E. WOOD
ROBERT E. WOOD
ROBERT E. WOOD
Robert E. Wood ต่างพยายามสร้างเครื่องมือที่ใช้เป็นกฎเกณฑ์ทางการจัดการ ที่เป็นรูปธรรมขึ้นมา แต่ช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่2
ขึ้นเสียก่อนในระหว่างสงครามโลกหน่วยงานทางทหารต้องเผชิญ กับปัญหาที่มีความซับซ้อน ทั้งในด้านการจัดระเบียบประชาชนและการส่งกำลังบำรุง การจัดการเชิงประมาณ(QUANTITATIVEMANAGEMENT)
เพื่อช่วยในการตัดสินใจ โดยใช้คณิตศาสตร์ สถิติและสารสนเทศเป็นเครื่องมือเพื่อแก้ปัญหาทางการจัดการ หลังสงความโลกการจัดการเชิงปริมาณได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นในแวดวงธุรกิจ อย่างไรก็ตามการใช้การจัดการเชิงปริมาณยังคงใช้ได้เฉพาะปัญหาที่มีลักษณะเป็นแบบที่มีโครงสร้าง(structured problem) ทฤษฎีวิทยาการจัดการ เป็นวิธีการสมัยใหม่ในด้านการจัดการ ที่เน้นการใช้เทคนิคเชิงปริมาณอย่างเข้มงวด เพื่อช่วยให้ผู้จัดการทำการใช้ทรัพยากรองค์การ เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์และบริการให้มากที่สุด ในส่วนประกอบที่สำคัญของทฤษฎีวิทยาการจัดการ คือการขยายการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ให้มีความทันสมัย โดยการนำวิธีการเชิงปริมาณเพื่อวัดส่วนประสมของคนงานและงาน เพื่อให้ทีประสิทธิภาพสูงขึ้น สำหรับส่วนประกอบที่สำคัญของทฤษฎีวิทยาการจัดการคือ
การขยายการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ ให้มีความทันสมัย โดยการนำวิธีการเชิงปริมาณเพื่อวัดส่วนประสมของคนงานและงาน เพื่อให้ทีประสิทธิภาพสูงขึ้น แบ่งเป็น 4 กลุ่ม1.
การจัดการเชิงปริมาณ (QUANTITATIVE MANAGEMENT) โดยใช้เทคนิคคณิตศาสตร์เช่น
โปรแกรมเชิงเส้นตรงและไม่ใช่เส้นตรง (linear and nonlinear programming) ตัวแบบ (modeling) แบบจำลองสถานการณ์ (simulation) และทฤษฎีแถวคอย (queuing theory) เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อช่วยในการตัดสินใจของผู้จัดการ2.
การจัดการการดำเนินการผลิต (OPERATIONS MANAGEMENT) ซึ่งประกอบด้วย เทคนิคต่าง ๆ ที่ผู้จัดการสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์ลักษณะระบบการผลิตขององค์การเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเช่น
แบบจำลองสินค้าคงคลัง(inventorymodel)
และแบบจำลองเครือข่าย(networkmodel)
เพื่อปรับปรุงการตัดสินใจปัญหาการจัดจำหน่ายและการดำเนินการ3.
การจัดการคุณภาพโดยรวม (TOTAL QUALITY MANAGEMENT:TQM)เป็นการจัดการคุณภาพของหน่วยงานในองค์การทั้งหมด ซึ่งประกอบได้ด้วยฝ่ายต่างๆ ที่ผู้จัดการสามารถนำเทคนิคต่าง
ๆ
ไปใช้ในการวิเคราะห์ระบบการผลิตในองค์การเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่นแบบจำลองสินค้าคงคลัง(inventorymodel)
และแบบจำลองเครือข่าย(network model)เพื่อปรับปรุงการตัดสินใจปัญหาการจัดจำหน่าย โดยะเน้นการวิเคราะห์ปัจจัยนำเข้าในกระบวนการเพื่อแปรสภาพให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพของผลิตภัณฑ์4.
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MANAGEMENT INFORMATION SYSTEMS)เป็นวิธีการที่ช่วยให้ผู้จัดการออกแบบระบบสารสนเทศ เพื่อจัดสารสนเทศเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกองค์การ เพื่อประกอบการตัดสินใจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการยังช่วยให้ผู้จัดการและบุคลากรในระดับต่างๆ ได้รับสารสนเทศที่จำเป็นต่อการนำไปใช้ประโยชน์และมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจอย่างไรก็ตามในการนำทฤษฎีวิทยาการจัดการไปใช้ประโยชน์นั้น ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ(information technology)ได้เข้ามามีส่วนในการปรับปรุงคุณภาพการตัดสินใจและเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์การได้เป็นอย่างดี และถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับองค์การ โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous
0
เพิ่มความคิดเห็น*
Oct
6
PETER F.DRUCKER
PETER F.DRUCKER
PETER F.DRUCKER
Peter F. Drucker ปรมาจารย์ทางด้านการจัดการเสียชีวิตไปเมื่อ 11พฤศจิกายน 2548 ด้วยวัย 95 ปีตลอดระยะเวลาการใช้ชีวิตเกือบทศวรรษของDrucker
ได้รับการยอมรับจากสังคมในฐานะผู้นำเสนอความรู้ใหม่ให้กับโลกธุรกิจและด้านการจัดการออกมาเป็นระยะๆ ซึ่งครั้งใดที่เขาออกมาแสดงบทบาทมักจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งนักบริหารธุรกิจในภาคเอกชนภาครัฐ
และรวมทั้งนักบริหารจากองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร และนำแนวคิดนั้นมาวางแผนบริหารธุรกิจของตนเอง ชื่อเสียงของ Drucker เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างตั้งแต่เขาตีพิมพ์หนังสือเล่มแรก The End of Economic Man, The Origin of Totalitarianism ในปี1939
ซึ่งเป็นหนังสือเล่มโปรดของWinston Churchill
อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษและ
6ปีจากนั้นเริ่มสร้างชื่อให้เป็นที่ยอมรับในโลกธุรกิจและการจัดการจากหนังสือเรื่อง Concept of the Corporation และโด่งดังสุดๆกับ The Practice ofmanagement
หนังสือการจัดการองค์กรสมัยใหม่ที่ยังนำมาประยุกต์ใช้กับองค์กรต่างๆได้จนกระทั่งปัจจุบัน 18 Famous Quotes by Peter F. Drucker “Quality in a product or service is not what the supplier puts in. It is what the customer gets out and is willing to pay for. A product is not quality because it is hard to make and costs a lot of money, as manufacturers typically believe. This is incompetence. Customers pay only for what is of use to them and gives them value. Nothing else constitutes quality.” Quality Quotes “Commitment in the face of conflict produces character.”Commitment Quotes
“Efficiency is doing things right; effectiveness is doing the right things.” Efficiency Quotes “Mentor: Someone whose hindsight can become your foresight” Foresight Quotes โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous0
เพิ่มความคิดเห็น*
Oct
6
CHESTER BARNARD
CHESTER BARNARD
CHESTER BARNARD
แนวคิด
Barnard
เป็นนักทฤษฎีสมัยปัจจุบัน โดยเขาได้ศึกษาวิเคราะห์องค์การในเชิงระบบตั้งแต่ปีค.ศ.1938
แล้วนำมาเขียนหนังสือชื่อ “The Functions of the Executive” เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการบริหารองค์การในสมัยปัจจุบัน โดยเห็นว่าองค์การเป็นระบบสังคมที่เปลี่ยนแปลงได้ ภายในระบบดังกล่าวจะมีความเกี่ยวพันที่ประสานกันโดยมีเป้าหมายของการตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล และเห็นว่าบุคคลแต่ละคน องค์การ ผู้ขาย และลูกค้า ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อม หลักการ1.
เน้นความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการ (Informal Organization)2.
มีการกระจายความพึงพอใจของบุคลากรในองค์การออกไปอย่างเท่าเทียมกัน (The contribution satisfaction equilibrium) : โดยเห็นว่าการสื่อสารในองค์การเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างดุลภาพของความต้องการระหว่างบุคคลกับองค์การ(Inducement)
เพื่อโน้มน้าวให้บุคคลทำงานด้วยความต้องการขององค์การ ในจุดที่องค์การต้องสร้างความพึงพอใจแก่บุคคลในการทำงานด้วย3.
นักบริหารมีหน้าที่สำคัญคือ
-
ดูแลติดต่อประสานงานภายในองค์การ-
รักษาสมาชิกภายในและชักจูงสมาชิกใหม่-
กำหนดเป้าหมายขององค์การ และตีความเพื่อแสดงให้สมาชิกในองค์การได้รับรู้-
ใช้ศิลปะเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน-
ทำงานด้วยความรับผิดชอบ โดยใช้หลักของศีลธรรม เครื่องมือนี้คืออะไร/ มีองค์ประกอบอะไร ชื่อทฤษฎี : องค์การไม่เป็นทางการ (InformalOrganization)
เป็นทฤษฎีการบริหารเชิงพฤติกรรม เป็นระบบความร่วมมือของมนุษย์ในการทำกิจกรรม โดยเน้นปัจจัยสำคัญด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผล สร้างแรงจูงใจให้บุคลากรบรรลุเป้าหมายจะทำให้เกิดความร่วมมือจากบุคลากร โดยมุ่งองค์กรเป็นระบบการสื่อสาร ซึ่งประกอบด้วย1.
ความสำคัญของพฤติกรรมมนุษย์ (Importance of individual behavior)2.
ทฤษฎีการให้ความร่วมมือของ Barnard (Barnard theory of compliance)3.
ทฤษฎีโครงสร้างขององค์การของ Barnard (Barnard theory of organization structure) เครื่องมือนี้ใช้เพื่ออะไร ความคิดเห็นของ Barnard สามารถที่จะนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสม ทั้งในแง่ขององค์การที่เป็นทางการ (Formal Organization) และไม่เป็นทางการ (Informal Organization) ซึ่งผลงานที่สำคัญของ Barnard คือ Functions of the Executive 1938 จากตรรกะทางความคิดที่ว่า องค์การ คือ ระบบความร่วมมือ ดังนั้น ถ้าจะนำองค์การให้บรรลุเป้าประสงค์ ผู้บริหารจัดการจะต้องทำหน้าที่ 3 ประการ คือ1.
การสร้างและการดำรงรักษาระบบการสื่อสาร2.
สร้างความมั่นใจด้านการบริการจากบุคลากรผู้เป็นสมาชิกองค์การ กำหนดจุดประสงค์และเป้าหมาขององค์การข้อดี
ข้อเสีย 1. ก่อให้เกิดความร่วมมือ (cooperation)ในองค์การ1.
องค์การไม่เป็นทางการทำให้ยากต่อการควบคุม (สายการบังคับบัญชาไม่ชัดเจน)2.
การทำงานในองค์การเกิดประสิทธิภาพ(Efficiency)
2.
หากบุคลากรขาดทักษะด้านการสื่อสารส่งผลให้เกิดปัญหาต่อการปฏิบัติงาน3.
บุคลากรสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้ อย่างทั่วถึง (เน้นระบบการสื่อสาร)4.
องค์การที่ไม่เป็นทางการทำให้การบริหารองค์การ มีความคล่องตัวและมีความยืดหยุ่น(Flexibility)
5.
บุคลากรมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ใช้อย่างไร (หรือจัดทำอย่างไร) ทฤษฎีของ BARNARD เป็นทฤษฎีการบริหารจัดการเชิงพฤติกรรม BARNARD ได้กล่าวถึงหน้าที่ สิ่งที่กระตุ้นจูงใจ (AUTHORITYAND INCENTIVES)
เกี่ยวกับบริบทระบบการสื่อสารในองค์กรคือ
1.
ช่องทางการสื่อสารต้องกำหนดขอบเขตให้แน่นอน2.
บุคลากรทุกคนต้องรู้ช่องทางการสื่อสาร3.
บุคลากรทุกคนต้องสามารถเข้าถึงช่องทางการสื่อสาร ที่เป็นทางการ4.
สายบังคับบัญชาการสื่อสารต้องสั้นและตรงให้มากที่สุด5.
บุคลากรต้องมีศักยภาพเพียงพอสำหรับการสื่อสาร6.
ต้องไม่มีอุปสรรคในสายบังคับบัญชาการสื่อสาร เมื่อองค์การปฏิบัติงาน7.
การสื่อสารทุกรูปแบบต้องเกิดผลน่าเชื่อถือ มีใครนำเครื่องมือนี้ไปใช้บ้าง และได้ผลสรุปอย่างไรทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการสร้างระบบความร่วมมือขึ้นระหว่างองค์การกับคน และองค์การกับสภาพแวดล้อม และจูงใจพนักงานให้ร่วมมือกันทำงาน รวมถึงการสร้างดุลยภาพระหว่างองค์การกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous
0
เพิ่มความคิดเห็น*
Oct
6
MARRY PARKER FOLLETT MARRY PARKER FOLLETT MARRY PARKER FOLLETT ชื่อทฤษฎี่ : กฎแห่งความเหมาะสมตามสถานการณ์(LAW OF SITUATION)
หลักการและแนวคิดเป็นทฤษฎีสมัยปัึจจุบัน มีลักษณะของการวิเคราะห์องค์การในเชิงระบบ
Follett
เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในทฤษฎีสมัยปัจจุบันระหว่างปีค.ศ.1920-1930
ผลงานของเธอเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยาของความสัมพัธ์ในองค์การธุรกิจ ที่รวมเอาความสนใจต่าง ๆ ในเรื่องของตัวบุคคลและองค์การ เธอได้เสนอแนะว่าควรจะมีการทำงานต่างๆ
ให้สำเร็จด้วยการมีจิตใจที่จะร่วมมือประสานกัน โดยเห็นว่าบุคคลทุกคนจะถูกนับว่าเป็นคนๆ หนึ่ง
เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม และเป็นส่วนหนึ่งของสังคมด้วย จะเห็นว่าการเสนอแนะของFollett
สามารถที่จะทำให้บรรลุผลสำเร็จได้โดยไม่ต้องเสียผลประโยชน์ขององค์การไป สรุปได้ว่า Follett ได้เสนอเป็นหลักการพื้นฐานในการจัดการไว้ 4 ประการ คือ1.
ความสำคัญของการติดต่อสื่อสารในแนวราบ (Horizontal Communication)2.
การเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการบริหาร (Participative Managent)3.
การตัดสินใจที่มีระบบ4.
การบริหารที่มีระบบ กฎการบริหารของ FOLLETT 1. กฎของสถานการณ์ (Law of situation) โดยทำให้หัวหน้า และลูกน้องเข้าใจในสภาพการทำงานที่เป็นอยู่ โดยไม่รู้สึกว่าตนถูกบังคับ เนื่องจากการติดต่อสื่อสารและการเข้ามามีส่วนร่วมในการบรหาร 2. กฎของการรวมตัวกัน (Lawof Integration)
โดยเห็นว่าเมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นในองค์การ มีทางออกดังนี้ - การครอบงำทางความคิด(Domination)
- การบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมรับ /ประนีประนอม (Compromising) - การรวมตัวกัน(Integration)
การนำไปใช้สามารถนำเอาหลักทฤษฎีและแนวคิดของ
Mary Parter Follett
ไปใช้ในการทำงานร่วมกัน โดยให้ความสำคัญกับปัจเจกบุคคลในอันที่จะบรรลุซึ่งวัตถุประสงค์ขององค์การ โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous0
เพิ่มความคิดเห็น*
Oct
6
OLIVER SHELDON
OLIVER SHELDON
OLIVER SHELDON
Oliver Sheldon มีประสบการณ์ทำงานในการบริหารกองทัพและ Coca Works of Rowntree & Company เขาได้เขียนหนังสือปรัชญาของการจัดการ ในหนังสือเล่มนี้ได้แสดงให้เห็นถึงแนวความคิดของเขาในการพยายามชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างการจัดการ (Management) และการบริหาร (Administration) เครื่องมือนี้คืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง 1. การบริหาร (Administration) เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดนโยบาย การวางแผน และประสานงานในหน้าที่ต่างๆ
2. การจัดการ (Management) เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำนโยบายและแผน มาดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดขึ้นไว้ 3. หน้าที่ในการจัดองค์การ เป็นกระบวนการเพื่อประสานงานระหว่างบุคคลหรือระหว่างกลุ่มบุคคลในองค์กร เครื่องมือนี้ใช้เพื่ออะไรแนวความคิดของเขาในการพยายามชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างการจัดการ (Management) และการบริหาร (Administration) นอกจากนี้ยังได้นำแนวความคิดด้านจริยธรรมทางสังคม เข้ามาผสมผสานกับการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ เขาได้กระตุ้นให้องค์การทางธุรกิจจำหน่ายสินค้าควบคู่กับการบริการด้วย และได้เสนอแนวความคิดว่าหลักการจัดการทางอุตสาหกรรมที่ดีจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการบริการเพื่อสังคม จากแนวความคิดนี้ได้กลายมาเป็นวัตถุประสงค์ขององค์การธุรกิจในยุคปัจจุบันในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจุดนี้เองทำให้การจัดการยกย่องและยอมรับความเป็นวิชาชีพ ข้อดีของSHELDON
1.
กระตุ้นให้องค์การทางธุรกิจจำหน่ายสินค้าควบคู่กับการบริการ2.
เป็นวัตถุประสงค์ขององค์การธุรกิจในยุคปัจจุบันในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม3.
ทำให้การจัดการยกย่องและยอมรับความเป็นวิชาชีพ ข้อเสียของ SHELDON1.
งบประมาณในการดำเนินการค่อนข้างสูง2.
สิ้นเปลืองเวลาและบุคลากร ใช้อย่างไร Oliver Sheldon ชาวอังกฤษได้พัฒนาความคิดในเรื่องการจัดการและการบริหารแบ่งการจัดการ เป็น 3 ประการ 1. การบริหาร (Administration)เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดนโยบาย การวางแผน และประสานงานในหน้าที่ต่าง
ๆ
2. การจัดการ (Management) เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำนโยบายและแผน มาดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดขึ้นไว้ หน้าที่ในการจัดองค์การ3.
เป็นกระบวนการเพื่อประสานงานระหว่างบุคคลหรือระหว่างกลุ่มบุคคลในองค์กร โพสต์เมื่อ 6th October 2012 โดย Anonymous0
เพิ่มความคิดเห็น คลังบทความของบล็อก คลังบทความของบล็อก*
2012 76
*
ตุลาคม 57* Micheal Hammer
* Frank B. Gilbreth & Lillian Gilbreth* Luther Gulick
* Richard Johnson
* James Thompson
* Robert E. Wood
* Peter F.Drucker
* Chester barnard
* Marry Parker Follett* Oliver Sheldon
* Henry L. Gantt
* Douglas Murray McGregor * แนวคิดและทฤษฎี Hugo Munsterberg * แนวคิดและทฤษฎี Elton Mayo * Robert H.Waterman JR-- โรเบิร์ต เอช วอเทอร์แมน จู... * ทฤษฎี Franklin D.Roosevelt (FDR) * Max Weber : ทฤษฎีระบบราชการ“Bureaucracy”
* ทฤษฎี Frederick Herzberg * Emerson Harrington * ทฤษฎี Maslow * แนวคิดและทฤษฎี Henri Fayol * แนวคิดและทฤษฎี Lyndall Urwick * : Thomas J. Peters * ทฤษฎี Edward Damming * Scientific Management : Frederick Winslow Taylor * WilliamG.OuchiทฤษฎีZ * Step of strategic planning process * KPI, CSF ( Controlling )* Team Development
* KM
* Performance Prism
* Core Competency
* e-Learning
* HRM
* Six Sigma
* Knowledge management* risk managment
* Outsourcing
* (Change Management) * (Strategic Thinking)” * TQM: Total Quality Management * การวางแผนกลยุทธ์ StrategicPlanning
* Industry Analysis : หลักการวิเคราะห์อุตสาหกรรม * Value Chain Analysis * Project Management * Performance Management (PM) : การบริหารผลการปฏิบัต... * Learning Organization (LO): องค์กรแห่งการเรียนรู้* Networking
* 7’S Framework
* Five Forces Analysis* Brainstorming
* Strategic Matrix
* ต้นทุนกิจกรรม หรือABC(Activity-based Costing) * วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์(Product Life Cycle)
* Leadership
* Re-engineering
* Value Based Management : VBM*
กันยายน 9*
สิงหาคม 10 เกี่ยวกับฉัน เกี่ยวกับฉัน* Unknown
กำลังโหลด มุมมองแบบไดนามิก ธีม. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
Details
Copyright © 2024 ArchiveBay.com. All rights reserved. Terms of Use | Privacy Policy | DMCA | 2021 | Feedback | Advertising | RSS 2.0